อักษรวิ่ง

โรคเเบบนี้ก็มีด้วย!!!!

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

ภาวะเสียความระลึกรู้ใบหน้า

"ภาวะเสียความระลึกรู้ใบหน้า" (Prosopagnosia)
ความทรงจำเป็นสิ่งที่สวยงาม ความทรงจำทำให้เราจดจำในสิ่งที่เรารักได้ แต่คุณเชื่อไหมว่าจะมีคนที่จำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ไม่ใช่จำความรู้สึกไม่ได้หากแต่ใบหน้าที่เขาไม่สามารถแยกได้
ภาวะบอดใบหน้าหรือ"Prosopagnosia"  เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับระบบประสาททำให้มีอาการไม่สามารถจดจำหน้าบุคคลได้ ส่วนใหญ่แล้วภาวะบอดใบหน้ามักจะเป็นมาโดยกำเนิด 
แต่ก็สามารถเกิดขึ้นภายหลังได้หากสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักโรคนี้ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เนื่องจากบุคคลที่เป็นโรคดังกล่าวจะไม่สามารถจดจำใบหน้าของบุคคลใด ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลที่มีความคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน พวกเขาสามารถรับมือกับปัญหานี้โดยใช้การจดจำสิ่งต่าง ๆ ของบุคคลนั้น ๆ แทนการจดจำใบหน้า เช่น จดจำจากท่าทางการเดิน ทรงผม น้ำเสียงหรือสไตล์การแต่งตัว
แน่นอนว่าการใช้วิธีจดจำจากสิ่งอื่นทดแทนย่อมไม่อาจได้ผลในทุกกรณี โดยเฉพาะเมื่อไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยก็จะไม่สามารถจดจำบุคคลรอบข้างที่ไปพบกันโดยบังเอิญได้ส่งผลให้บางคนหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมและนำไปสู่ความหวาดกลัวที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นนอกจากนี้ผู้ที่มีอาการของภาวะบอดใบหน้ายังประสบปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น รวมถึงประสบปัญหาในการทำงานอีกด้วยเนื่องจากการจดจำใบหน้าบุคคลไม่ได้ทำให้คนที่เป็นโรคนี้ไม่สามารถรับรู้ถึงการแสดงความรู้สึกทางใบหน้า ไม่สามารถจำแนกบุคคลจากอายุและเพศ หรือในบางคนไม่สามารถจดจำใบหน้าของตนเองเมื่อมองผ่านกระจกหรือรูปภาพได้ ซึ่งผู้คนเหล่านี้มักจะมีความกังวลอยู่เสมอว่า 

พวกเขาได้ทำกิริยาที่หยาบคายหรือแสดงความเพิกเฉย ไม่สนใจบุคคลอื่น ๆ หรือไม่ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถจดจำรายละเอียดของบุคคลอื่นได้ภาวะบอดใบหน้านั้นยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจดจำสิ่งต่าง ๆ อีกด้วย หลายคนที่เป็นโรคนี้ไม่สามารถรับรู้ลักษณะของวัตถุ มุม ระยะทางหรือจดจำสถานที่ที่เป็น "Landmarks "ได้ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนที่มีอาการของภาวะบอดใบหน้าจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนในหนังหรือละคร เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เลย
                                                                                             

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น